สีของป้ายทะเบียนรถ แตกต่างกันอย่างไร?
รถยนต์ที่จดทะเบียนแล้วทุกคันนั้น จะต้องติดแผ่นป้ายทะเบียนให้ครบถ้วน ถูกต้อง และในที่ที่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน สีของแผ่นป้ายทะเบียนรถที่หลากหลายและแตกต่างกันนั้น มีดังนี้
รถยนต์รับจ้างระหว่างจังหวัด รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคน รถยนต์รับจ้างสามล้อ รถยนต์สี่ล้อเล็กรับจ้าง และรถ-จักรยานยนต์รับจ้าง รถยนต์รับจ้างระหว่างจังหวัด ได้แก่ รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคน ที่ใช้รับจ้างระหว่างจังหวัด โดยรับส่งคนโดยสารได้เฉพาะที่นายทะเบียนกำหนดพื้นแผ่นป้ายเป็นสีเหลืองสะท้อนแสง ตัวอักษร หมายเลขทะเบียน และขอบแผ่นป้ายเป็น สีแดง สำหรับรถยนต์รับจ้างระหว่างจังหวัด สีดำ สำหรับรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคน และรถจักรยานยนต์ สีเขียว สำหรับรถยนต์รับจ้างสามล้อ สีน้ำเงิน สำหรับรถยนต์สี่ล้อเล็กรับจ้าง
รถยนต์บริการธุรกิจ รถยนต์บริการทัศนาจร รถยนต์บริการให้เช่า รถยนต์บริการธุรกิจ เช่น รถที่ใช้ขนคนในสนามบิน ท่าเรือ สถานีขนส่ง หรือสถานีรถไฟ และรถโรงแรม รถยนต์บริการทัศนาจร เช่นรถนำเที่ยวของบริษัททัวร์ โดยรถพวกนี้พื้นแผ่นป้ายเป็นสีเขียวสะท้อนแสง ตัวอักษร หมายเลขทะเบียน และขอบแผ่นป้ายเป็นสีขาว
รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกินเจ็ดคน รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกินเจ็ดคน รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล รถยนต์สามล้อส่วนบุคคล และรถจักรยานยนต์ พวกรถส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นเก๋ง รถตู้ รถกระบะ มอไซค์ รถ MPV หรือรถ SUV โดย พื้นแผ่นป้ายเป็นสีขาวสะท้อนแสง ตัวอักษร หมายเลขทะเบียน และขอบแผ่นป้ายเป็น สีดำ สำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกินเจ็ดคน และรถจักรยานยนต์ สีน้ำเงิน สำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกินเจ็ดคน สีเขียว สำหรับรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล สีแดง สำหรับรถยนต์สามล้อส่วนบุคคลหมายเหตุ จะมีแผ่นป้ายทะเบียนชนิดพิเศษ พวกเลขสวย โดยจะเป็นป้ายที่ออกให้ประมูล ซึ่งจะมีสีของพื้นแผ่นป้ายทะเบียน หมายเลขทะเบียน และตัวอักษรต่างไปจากแผ่นป้ายทะเบียนปกติ และแต่ละจังหวัด สีของพื้นแผ่นป้ายทะเบียนก็จะไม่เหมือนกัน ทั้งนี้ตามประกาศของกรมการขนส่งทางบก (ยกเว้นรถสามล้อส่วนบุคคล และรถจักรยานยนต์ ไม่มีป้ายพิเศษนี้)
รถพ่วง รถบดถนน รถแทรกเตอร์ และรถใช้งานเกษตรกรรม พื้นแผ่นป้ายเป็นสีส้มสะท้อนแสง ตัวอักษร หมายเลข และขอบป้ายเป็นสีดำ
รถยนต์ของบุคคลในคณะผู้แทนทางการทูต และรถจักรยานยนต์ของคณะผู้แทนทางการทูต พวกรถทูต ลักษณะป้ายจะขึ้นต้นด้วยตัวอักษร ท ตามด้วยรหัสประเทศ ขีด แล้วก็เลขทะเบียน ตัวอย่างเช่นรถทูตญี่ปุ่นก็จะเป็น ท44 – 9999 พื้นแผ่นป้ายเป็นสีขาว (สังเกตว่าไม่มีคำว่า สะท้อนแสง) ตัวอักษร ตัวเลข และขีดเป็นสีดำ
รถยนต์ของบุคคลในหน่วยงานพิเศษของสถานทูต ในคณะผู้แทนทางกงสุล ในองค์การระหว่างประเทศ หรือทบวงการชำนัญพิเศษแห่งสหประชาชาติ ซึ่งประจำอยู่ในประเทศไทย และรถจักรยานยนต์ของบุคคลข้างต้น ลักษณะป้ายก็เหมือนรถทูต แต่ต่างกันตรงที่ รถในหน่วยงานพิเศษของสถานทูตจะใช้ตัวอักษร พ ส่วนรถกงสุลจะใช้ตัวอักษร ก ส่วนรถของสหประชาชาติ หรือองค์การระหว่างประเทศต่างๆ ในไทย จะใช้ตัวอักษร อ และ พื้นแผ่นป้ายเป็นสีฟ้า (สังเกตว่าไม่มีคำว่า สะท้อนแสง) ตัวอักษร ตัวเลข และขีดเป็นสีขาว ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ก็เป็นไปตามกฎกระทรวงกำหนดลักษณะ ขนาด และสีของแผ่นป้ายทะเบียนรถ พ.ศ. ๒๕๔๗.
เลขมงคลประจำวันเกิด มีเลขอะไรบ้าง ลองมาดูกัน
เลขมงคลประจำวันเกิด เลขนำโชคประจำราศีเกิด ถือเป็นเลขที่ใช้ประจำตัวในการเลือกซื้อหาทะเบียนรถที่สวยและเป็นมงคลตามต้องการ และยังเป็นตัวเลือกสำหรับการเลือกซื้อเบอร์โทรศัพท์สวย เลขที่บ้าน หรืออะไรที่เกี่ยวข้อง จะยิ่งถูกโฉลกจะเหมาะกับการไปทำสัญญาหรือนิติกรรมต่างๆ การเปิดร้านก็ดี การประชุมที่สำคัญ จะถือเป็นเลขไว้สำหรับเสี่ยงโชคก็แล้วแต่ ซึ่งถือว่าเป็นความเชื่อที่มีกันมาตั้งแต่สมัยอดีต ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ย่อมเป็นสิทธิของแต่ละบุคคล
เลขมงคลประจำวันเกิด
คนเกิดวันอาทิตย์ เลขนำโชค คือเลข 2
คนเกิดวันจันทร์ เลขนำโชค คือเลข 5 และ 15
คนเกิดวันอังคาร เลขนำโชค คือเลข 3 กับ 9
คนเกิดวันพุธ (กลางวัน) เลขนำโชค คือเลข 6 กับ 18
คนเกิดวันพุธ (กลางคืน) เลขนำโชค คือเลข 4 กับ 12
คนเกิดวันพฤหัสบดี เลขนำโชค คือเลข 2 , 6 และ 18
คนเกิดวันศุกร์ เลขนำโชค คือเลข 3 กับ 10
คนเกิดวันเสาร์ เลขนำโชค คือเลข 3 กับ 9
หลักการง่ายๆ ที่คุณก็สามารถดูผลรวมทะเบียนรถคุณได้เอง
หลัการง่ายๆ ที่คุณก็สามารถตรวจสอบ เช็คเลขทะเบียนรถของคุณ
วิธีคำนวณหาเลขมงคล หมายเลขทะเบียนรถ
1. แบบเก่า ไม่มีตัวเลขนำด้านหน้าตัวอักษร วิธีคำนวณ คือ แปลงค่าตัวอักษร + ตัวเลข
2. แบบใหม่ มีตัวเลขนำด้านหน้าตัวอักษร วิธีคำนวณ คือ ตัวเลขหน้าอักษร + แปลงค่าตัวอักษร + ตัวเลข
ตัวอย่าง หมายเลขทะเบียนรถ กข 9999
– แปลงค่าตัวอักษร ก = 1 , ก =2 ได้ผลรวม หมวดตัวอักษร คือ 1 + 2 = 3
– ผลรวมตัวเลข 4 ตัวหลัง คือ 9 + 9 + 9 + 9 = 36
– นำผลรวมทั้งสองที่ได้มาบวกกัน คือ 3 + 36 = 39 ได้ผลรวมเลขศาสตร์ 39 แต้ม
ตัวอย่าง หมายเลขทะเบียนรถ 1กก 6566
– แปลงค่าตัวอักษร ก = 1 , ก = 1 ได้ผลรวม หมวดตัวอักษร คือ 1 + 1 = 2
– ผลรวมตัวเลข 4 ตัวหลัง คือ 6 + 5 + 6 + 6 = 23
– นำตัวเลขด้านหน้าตัวอักษรมารวมด้วย นำผลรวมที่ได้มาบวกกัน คือ 1 + 2 + 23 = 26 ได้ผลรวมเลขศาสตร์ 26 แต้ม
ตัวอย่าง หมายเลขทะเบียน จง 13
– แปลงค่าตัวอักษร จ = 6, ง = 2 ได้ผลรวม หมวดตัวอักษร คือ 6 + 2 = 8
– ผลรวมตัวเลข 2 ตัวหลัง คือ 1 + 3 = 4
– นำผลรวมทั้งสองที่ได้มาบวกกัน คือ 8 + 4 = 12 ได้ผลรวมเลขศาสตร์ 12 แต้ม
ลองคำนวณดูเพียงแค่นำตัวอักษรมาบวกกับตัวเลข เท่านี้เราก็จะได้ผลรวมทะเบียนรถสวยแล้วครับ
เอกสารหายไม่ต้องไปแจ้งความแล้ว
ต่อไปเอกสารหายไม่ต้องแจ้งความแล้ว ส.น.ตำรวจพญาไทฝากประชาสัมพันธ์ เอกสารหาย…ไม่ต้องแจ้งความ เพื่อนๆ เคยมีปัญหากังวลกับเอกสารสำคัญ อาทิ บัตรประชาชน บัตรประกันสังคม ใบขับขี่ หรือบัตรรับรองสิทธิต่างๆ ที่ออกโดยราชการ หายหรือไม่ ส่วนใหญ่เป็นกังวล นอกจากจะต้องเสียเวลาไปทำใหม่แล้ว ยังต้องเสียเวลาไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ ปัญหานี้มีทางออกแล้ว สามารถดำเนินการได้ตามนี้
1. สำเนาทะเบียนบ้านหาย ให้เจ้าบ้านหรือผู้ได้รับมอบอำนาจจากเจ้าบ้าน โดยมีหนังสือมอบอำนาจจากเจ้าบ้านไปดำเนินการทำใหม่ได้เลย
2. บัตรประชาชนหาย ให้ผู้ที่บัตรประชาชนหายนั้นนำทะเบียนบ้านตัวจริงไปดำเนินการทำบัตรใหม่ได้เลย
3. แผ่นป้ายทะเบียนรถหาย ให้นำสมุดคู่มือการจดทะเบียนรถนำไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่ กรมการขนส่งทางบกดำเนินการทำใหม่ได้เลย
4. ใบอนุญาตขับขี่หาย ให้นำบัตรประจำตัวประชาชนไปดำเนินการทำใบอนุญาตขับขี่ใหม่ได้เลย โดยทำที่กรมการขนส่งทางบก หรือสำนักงานย่อย และไม่ต้องสอบใบขับขี่รถใหม่ เพียงแค่ถ่ายรูปติดใบอนุญาตขับขี่ใหม่เท่านั้น หากเป็นใบขับขี่ตลอดชีพก็จะได้ใบขับขี่ตลอดชีพเช่นเดิม
5. บัตรประกันสังคม และบัตรรับรองสิทธิรักษาพยาบาลหาย ให้นำบัตรประจำตัวประชาชนไปดำเนินการทำบัตรใหม่ได้เลย ณ สำนักงานประกันสังคมหรือติดต่อผ่านฝ่ายบุคคลของบริษัทตนเอง
6. บัตรประจำตัวผู้เสียภาษีหาย ให้นำบัตรประจำตัวประชาชน/ทะเบียนบ้าน ไปดำเนินการทำบัตรใหม่ได้เลย ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่เขตของท่าน ด.ต.ทรงพล ชนะมาร เจ้าหน้าที่ธุรการ สน.พญาไท
การขับรถอย่างปลอดภัย ขึ้นอยู่กับความรู้ 5 ประการ
การขับรถอย่างปลอดภัย ขึ้นอยู่กับความรู้ 5 ประการ
1. รอบรู้เรื่อง “รถ”
นักขับที่ดีจะต้องรอบรู้เรื่องรถที่ขับขี่เป็นอย่างดี หมั่นตรวจตราแก้ไขข้อ บกพร่องอยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ก่อนออกเดินทางไกลควรจะได้ ตรวจอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยที่สำคัญๆ
(1) เครื่องยนต์
(2) ห้ามล้อ
(3) ยาง
(4) นอตบังคับล้อ
(5) พวงมาลัย
(6) ที่ปัดน้ำฝน
(7) กระจกส่องหลัง
(8) ไฟ
2. รอบรู้เรื่องทาง
ทางแต่ละสายย่อมแตกต่างกัน โดยสภาพภูมิประเทศ และสภาพแวดล้อม ถ้าเป็นเส้นทางไม่เคยไป ควรศึกษาจากแผนที่ คู่มือการท่องเที่ยว ถามผู้รู้ หรือเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง เช่น กรมทางหลวง,ตำรวจท้องที่ ฯลฯที่สำคัญ ที่สุดท่านจะต้องสังเกตและปฏิบัติตามป้ายและเครื่องหมายจราจร
3. รอบรู้เรื่องวิธีขับรถ
การขับรถเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง ขับรถเป็นอย่างเดียวไม่พอ ต้องรู้วิธีแก้ไข ปัญหาเฉพาะหน้าได้โดยฉับพลัน และสามารถหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น โดยมิได้คาดคิด เนื่องจากขาดความชำนาญ เช่น เบรกจะทำอย่างไร
4. รอบรู้เรื่องกฎจราจร
กฎจราจรมีไว้เพื่อให้ผู้ใช้รถใช้ถนนประพฤติปฏิบัติในแนวเดียวกัน เพื่อ ความปลอดภัยและความสะดวกรวดเร็ว
5. รอบรู้เรื่องมารยาทในการขับรถ
มารยาทในการขับรถมีความสำคัญไม่น้อยในการใช้รถใช้ถนน นักขับขี่ ที่ดีควรแสดงความเป็นสุภาพบุรุษ อะลุ้มอล่วย เห็นใจ แนะนำและให้อภัย ต่อความผิดพลาดของผู้อื่น และหลีกเลี่ยงการแสดงมารยาทที่ไม่สมควร